วันอาทิตย์ที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

Learning log การอบรมภาคบ่าย 29/10/58

            
                         การอบรมเชิงปฏิบัติการเทคนิคการสอนภาษาอังกฤษแบบบูรณาการทักษะ

             การเรียนการสอนภาษาอังกฤษในปัจจุบันมีความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะประเทศไทยก็เป็นหนึ่งในประเทศอาเซียน ที่ต้องใช้ภาษาอังกฤษในการทำงานติดต่อสื่อสารกับประเทศที่อยู่ในกลุ่มอาเซียนด้วยกัน หรือแม้แต่ประเทศอื่นๆ ที่ไม่ได้อยู่ในกลุ่มอาเซียน ก็ต้องใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสารเช่นกัน ภาษาอังกฤษจึงเป็นภาษาที่สองของชาวอาเซียน เคียงคู่ภาษาที่หนึ่งอันเป็นภาษาประจำชาติของแต่ละคน ฉะนั้นการพัฒนาภาษาตั้งแต่ระดับรากหญ้าจึงมีความจำเป็นอย่างมาก โดยต้องมุ่งเน้นไปที่วิธีการสอนภาษาที่มีคุณภาพเป็นอันดับแรก และต้องก่อให้เกิดผลสำเร็จ ซึ่งต้องมีความเหมาะสมกับผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 ด้วย
            ทางศูนย์ภาษา มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช จึงจัดให้มีการอบรมความรู้เชิงบูรณาการของครูสอนภาษาอังกฤษในศตวรรษที่ 21 กับการเป็นสมาชิกอาเซียน ในหัวข้อ การเรียนการสอนในศตวรรษที่ 21 และกลวิธีการเรียนการสอนภาษาในปัจจุบัน โดยผศ.ดร.ศิตา เยี่ยมขันติถาวร ในภาคบ่ายของวันพฤหัสบดี ที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2558 ซึ่งจะบรรยายเกี่ยวกับความรู้ที่ผู้สอนจะต้องรู้ในการสอนเพื่อการสื่อสาร ซึ่งจะนำมาบูรณาการกับการเรียนการสอนให้กับผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 ได้เรียนรู้และลงมือปฏิบัติ โดยจะเน้นให้ผู้เรียนได้เกิดการเรียนรู้ด้วยตนเองเป็นส่วนใหญ่
ผศ.ดร.ศิตา เยี่ยมขันติถาวร กล่าวว่า ในปัจจุบันมีหลากหลายภาษาที่ถูกใช้สื่อสารกันบนโลกใบนี้ ภาษาที่ถูกใช้สื่อสารเป็นอันดับหนึ่งของโลกคือ ภาษาจีน อันดับที่สองคือภาษาฮินดู อันดับที่สามคือภาษาสเปน และอันดับที่สี่คือภาษาอังกฤษ จะเห็นได้ว่าภาษาอังกฤษไม่ใช่ภาษาที่ถูกใช้สื่อสารเป็นอันดับหนึ่ง แต่ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่ใช้ในอินเทอร์เน็ตเป็นอันดับหนึ่ง ซึ่งในโลกของโซเชียลเน็ตเวิร์คในปัจจุบันมีผู้ใช้อินเทอร์เน็ตเป็นจำนวนมากและใช้ทุกๆวันจนกลายเป็นกิจวัตรประจำวัน ทำให้คนเราคุ้นชินกับภาษาอังกฤษทางอินเทอร์เน็ตมากกว่าภาษาอื่นๆ และการพูดภาษาอังกฤษได้ก็เป็นกำไรของชีวิตอย่างหนึ่ง ที่จะทำให้เราพบเจอสิ่งใหม่ๆ และได้เรียนรู้อะไรหลายๆอย่าง
ผู้สอนจึงเป็นปัจจัยสำคัญอีกส่วนหนึ่งที่จะทำให้การพัฒนาทางด้านภาษาของผู้เรียนประสบผลสำเร็จ และตัวผู้สอนเองจะต้องความเท่าทันเทคโนโลยี เพราะผู้เรียนสมัยนี้มีการเรียนรู้ผ่านเทคโนโลยีเป็นส่วนใหญ่ ทำให้ผู้เรียนพบเจอสิ่งแวดล้อมต่างๆมากมาย พบเจอคำศัพท์แปลกๆใหม่ๆบนโลกอินเทอร์เน็ตอยู่เสมอ และจะเกิดการเรียนรู้ตลอดเวลาขณะที่กำลังท่องอยู่บนโลกของอินเทอร์เน็ต แต่อย่างไรก็ตามผู้เรียนก็ควรพัฒนาการเรียนรู้ทางด้านภาษาด้วยตัวเองด้วย อาจจะด้วยการฝึกฟังเพลง ดูหนังที่เป็นภาษาอังกฤษ เพื่อพัฒนาทักษะในด้านต่างๆ และเสริมกับสิ่งที่ครูผู้สอนได้ชี้แนะแนวทางการเรียนรู้ในห้องเรียน ดังนั้นจะทำให้เกิดการเรียนรู้ทางด้านภาษาที่ประสบผลสำเร็จ
หากพูดถึงการพูดภาษาอังกฤษของคนไทยนั้น คำศัพท์เปรียบเสมือนหัวใจหลัก ซึ่งคนไทยส่วนใหญ่จะพูดผสมผสาน คือมีทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษผสมกัน เช่น Chill chill หรือคำที่ติดปากมาช้านานคือคำว่า ชุดแซก หากเราไปพูดกับชาวต่างชาติ เขาจะเข้าใจว่าชุดกระสอบ เพราะในภาษาอังกฤษ แซก แปลว่า กระสอบ นอกจากนั้นคนไทยยังพูดชื่อยี่ห้อของสินค้าจนติดปาก ทำให้คิดว่าคำคำนั้นเป็นคำในภาษาอังกฤษ เช่น Xerox คำนี้เป็นชื่อยี่ห้อสินค้า คำที่ถูกต้องคือคำว่า photocopy หมายถึง ถ่ายเอกสาร อีกคำหนึ่งที่พูดกันบ่อยคือคำว่า Fab คำที่ถูกต้องคือคำว่า detergent มีความหมายว่า ผงซักฟอก ฉะนั้นการปลูกฝังการสอนคำศัพท์ที่ถูกต้องให้ผู้เรียนตั้งแต่ระดับชั้นพื้นฐานเป็นสิ่งที่ดี เพราะจะทำให้เขามีรากฐานทางด้านภาษาที่มั่นคง
การสอนภาษาอังกฤษด้วยเกมส์เป็นการบูรณาการการสอนที่ทำให้ผู้เรียนเกิดความตื่นเต้นในการเรียนรู้อยู่ตลอดเวลา และทำให้สภาพแวดล้อมการเรียนรู้อยู่ในสภาวะที่ไม่กดดันจนเกินไป ซึ่งจะทำให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ที่ดีและมีพัฒนาการทางด้านภาษาที่ดีขึ้น ผู้สอนต้องสรรหาเกมส์ที่หลากหลายเพื่อไม่ให้ผู้เรียนเกิดอาการเบื่อหน่าย แต่เกมส์ที่นำมาใช้บูรณาการกับการสอนนั้น ควรไม่เล่นนานจนเกิดไป เพราะการเล่นอะไรซ้ำๆ อาจทำผู้เรียนเกิดความเบื่อหน่าย ทั้งนี้การเล่นเกมส์นั้นอาจจะทำให้ผู้เรียนได้ฝึกทักษะการฟัง และทักษะการพูดเป็นส่วนใหญ่
นอกจากนี้การสอนภาษาอังกฤษนั้น เราต้องเรียนรู้แบบสอดแทรกวัฒนธรรมของแต่ละประเทศเข้าไปด้วย เพราะแต่ละที่มีวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน และจะทำให้ผู้เรียนได้เห็นถึงข้อแตกต่าง ซึ่งสามารถนำไปใช้ได้เมื่ออยู่ในสถานการณ์จริง  อาทิเช่น การยกมือแล้วทำท่าทางหมุนรอบโต๊ะ นั่นคือวิธีการเรียกเก็บเงินของคนไทย แต่ถ้าหากเป็นประเทศสิงคโปร์นั่นหมายถึงการสั่งอาหารเพิ่มมาอีกชุดหนึ่ง การชี้เรียกตัวเอง โดยส่วนใหญ่นั้นคนไทยจะใช้มือข้างใดข้างหนึ่งมาตบที่หน้าอกตัวเองเบาๆ แต่ถ้าเป็นคนญี่ปุ่น เขาจะชี้ที่จมูก ส่วนฝรั่งจะชี้ที่หัว เป็นการแทนตัวเอง จะเห็นได้ว่าวัฒนธรรมของแต่ละประเทศแตกต่างกันเป็นอย่างมาก จึงมีความจำเป็นที่เราจะต้องเรียนรู้และเข้าใจในวัฒนธรรมของต่างชาติ
หากพูดถึงการพูดภาษาอังกฤษนั้น จะเป็นปัญหามากสำหรับเด็กไทย เพราะส่วนใหญ่ไม่สามารถพูดภาษาอังกฤษได้ สาเหตุอาจเกิดจากทัศนคติของผู้เรียนต่อภาษาอังกฤษต่อครูผู้สอน ทัศนคติของผู้สอน และโอกาสในการเรียนการสอน การฝึก ฉะนั้นครูผู้สอนภาษาอังกฤษควรตระหนักและออกแบบบทเรียนเพื่อเอื้อให้ผู้เรียนสามารถนำภาษาอังกฤษไปใช้ได้จริง และให้ผู้เรียนได้ฝึกจากสถานการณ์จริง ทั้งนี้ตัวผู้สอนภาษาอังกฤษเอง แค่มีความสารถพูดภาษาอังกฤษได้นั้นยังไม่เพียงพอ แต่จะต้องมีความรู้เบื้องต้นทางสัทศาสตร์ด้วย เพราะผู้สอนสามารถช่วยแก้ไขการออกเสียงผิดพลาดของผู้เรียนได้
            การออกเสียงจะเริ่มเกิดขึ้นที่บริเวณปอด ไล่ตามขึ้นมาทางหลอดลมเรื่อยๆ จนมาถึงริมฝีปาก  ซึ่งท่านวิทยากรให้ผู้เข้ารับการอบรมฝึกพูดประโยคดังต่อไปนี้ 1) The thirty-three thieves thought that they thrilled the throne throughout Thursday. 2) I saw Susie sitting in a shoe shine shop. Where she sits she shines, and where she shines she sits. 3) I wish to wish the wish you wish to wish, but if you wish the wish the witch wishes, I won’t wish the wish you wish to wish. ปรากฏว่าผู้เข้ารับการอบรมบางคนสามารถออกเสียงได้ถูกต้อง เนื่องจากมีความรู้พื้นฐานทางสัทศาสตร์ ทำให้ทราบวิธีการออกเสียงของแต่ละคำ
            การจัดกิจกรรมในการเรียนรู้ให้กับผู้เรียน จะทำให้ผู้เรียนได้เกิดการเรียนรู้ด้วยตนเอง กิจกรรมที่สามารถจัดได้ เช่น การแสดงบทบาทสมมติ โดยผู้สอนอาจจะกำหนดสถานที่ที่ใช้ในการแสดงบทบาทสมมติ เช่น ร้านอาหาร ก็ให้ผู้เรียนได้คิดบทสนทนาเองว่า เมื่อไปร้านอาหารควรจะพูดอย่างไร ถามเกี่ยวกับอะไรบ้าง โรงพยาบาล ผู้เรียนก็คิดบทสนทนาที่เคยประสบจากประสบการณ์จริงว่า เมื่อไปโรงพยาบาลคุณหมอและคนไข้ เขาสอบถามเรื่องอะไรกันบ้าง จะเห็นว่าการที่ผู้เรียนสามารถจะคิดบทสนทนาต่างๆได้นั้น ผู้เรียนก็เคยประสบพบเจอกับเหตุการณ์เหล่านี้มาแล้ว ซึ่งเป็นการใช้ประสบการณ์จริงมาประยุกต์ใช้กับการเรียนรู้

            จากการเข้าอบรมในช่วงบ่ายของวันพฤหัสบดี ที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2558 โดยผศ.ดร.ศิตา เยี่ยมขันติถาวร ดิฉันได้รับความรู้เกี่ยวกับสิ่งที่ผู้สอนจะต้องทราบในการสอนภาษาอังกฤษ มีทั้งคำศัพท์แสลงที่เกิดขึ้นอยู่ทุกๆวัน การใช้เกมส์ในการสอน การสอนวัฒนธรรมต่างชาติ การออกเสียง และการจัดกิจกรรม เพื่อจะพัฒนาให้การเรียนภาษาอังกฤษของผู้เรียนมีการพัฒนาไปในทิศทางที่ดีขึ้น ซึ่งดิฉันเห็นว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับการพูดภาษาอังกฤษคือ การมีความรู้พื้นฐานทางด้านสัทศาสตร์ เพราะจะทำให้เราออกเสียงได้ถูกต้อง และเมื่อเราไปสอน เราก็สามารถนำความสัทศาสตร์มาแก้ไขปัญหาการออกเสียงของผู้เรียนได้ และจะทำให้ผู้เรียนเห็นที่มาที่ไปของการออกเสียงแต่ละคำด้วย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น