ในการใช้หลักเกณฑ์การถอดอักษรไทยเป็นอักษรโรมัน
เป็นการถอดโดยวิธีการถ่ายเสียง
เพื่อให้การอ่านคำภาษาไทยที่เขียนด้วยอักษรโรมันให้ได้ใกล้เคียง
โดยไม่มีการคำนึงถึงการสะกดการันต์ และวรรณยุกต์ เช่น จันทร์ chan, พระ phra และแก้ว kaeo ทุกวันนี้เรามักสังเกตเห็นคำจำนวนมากมายที่ยังมีการถอดอักษรมาใช้แบบผิดๆ
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เราสามารถเห็นได้จากป้ายบอกทิศทาง สถานที่ต่างๆ
และการถอดชื่อบุคคล ในบทเรียนดังกล่าวจะนำเสนอเนื้อหาที่ประกอบไปด้วยเรื่องการเทียบเสียงพยัญชนะและสระ ความหมายของคำ
การใช้เครื่องหมาย “-” เพื่อแยกพยางค์ การแยกคำ
การใช้อักษรตัวใหญ่ การถอดชื่อภูมิศาสตร์และการถอดคำทับศัพท์
ประการแรกคือการเทียบเสียงพยัญชนะและสระ มักจะมีการสะกดผิดกันบ่อยมากในอักษรบางตัวและสระบางตัว
เช่น ตัว จ ช สระอี สระอู เป็นต้น ในทางสัทศาสตร์ ใช้ h เป็นตัวสัญลักษณ์เพื่อแสดงลักษณะเสียง
h ที่ประกอบหลัง k p t ในทางสัทศาสตร์ ใช้ c แทนเสียง จ เพื่อแสดงลักษณะเสียงธนิต
สังเกตการอ่านเป็นเสียง ค ในคำว่า con และออกเสียง
ซ ในคำว่า cit
ใช้ ch แทนเสียง
จ เช่นจุฬา (Chula) และเสียงสระอึ
อืกับ อุ อู จึงใช้ u แทน อุ อู และใช้ ue แทน อึ อื และไม่มีการประสมด้วยสระเสียงนี้ใช้ในภาษาไทย
สองความหมายของคำ ได้แก่ คำนามทั่วไป นามเฉพาะชื่อบุคคล สถานที่
คำนำหน้านามและคำทับศัพท์ ตามหลักเดิม
เสียงอิว ใช้ iu เอียว
ใช้ ieuแต่เนื่องจากหลักเกณฑ์นี้เสียงที่มีเสียง
ว ลงท้าย และจะไม่มีคำที่ประสมด้วยสระเสียงนี้ใช้ในภาษาไทย
ประการที่สอง
ความหมายของคำหน่วยคำหมายถึงหน่วยที่เล็กที่สุดและมีความหมาย
อาจมีเพียงพยางค์เดียวหรือหลายพยางค์ก็ได้ เช่น นาที ลอง กอง ลองกอง นาฬิกา
คำหมายถึงหน่วยคำหนึ่งคำหรือมากกว่านั้น เช่นหน้า โต๊ะ ลูกเสือ จานผี มหาราช
ประชาชน สำหรับคำประสมคือหน่วยคำตั้งแต่สองคำขึ้นไป
เมื่อรวมกันแล้วมีความหมายใหม่หรือมีความหมายเพิ่มขึ้นจากเดิม เช่นลูกเสือ
จานผีลมกรด คำสามานยนาม ประกอยด้วยคำทั่วไป เช่น พระ คน เสื้อ สัตว์ แมว นก ต้นไม้
มะม่วง โต๊ะ วิทยุ บันได และชื่อภูมิศาสตร์คือคำนามทั่วไปที่บอกลักษณะภูมิประเทศตามธรรมชาติ
เช่นภูเขา ควน ดอย พนม แม่น้ำ ลำคลอง ห้วย หนอง
หรือคำนามทั่วไปทางภูมิศาสตร์ที่มนุษย์ทำขึ้น เช่น ท่าเรือ ถนน ซอย สะพาน และ
การใช้เครื่องหมาย “ - ” เพื่อแยกพยางค์ ในกรณีที่คำซึ่งมีหลายพยางค์
ตัวอักษรตัวสุดท้ายของพยางค์หน้าเป็นสระ
และอักษรตัวแรกของพยางค์ที่ตามมาขึ้นต้นด้วยพยัญชนะ เช่น สง่า คือ Sa-nga เมื่อตัวสุดท้ายของพยางค์หน้าเป็น
ng และตัวอักษรตัวแรกของพยางค์ที่ตามมาขึ้นต้นด้วยสระ เช่น
บังอร Bang-on และเมื่ออักษรตัวแรกของพยางค์ที่ตามมาขึ้นต้นด้วยสระ
เช่น สะอาด Sa-at สำหรับการแยกคำ
ในการถอดอักษรไทยเป็นอักษรโรมันให้เขียนแยกเป็นคำๆ เช่น ถนนโชคชัย Thanon Chok Chai ยกเว้นคำประสมซึ่งถือว่าเป็นคำเดียวกัน
และวิสามานยนามที่เป็นชื่อบุคคล ให้เขียนติดกัน เช่น ลูกเสือ luksuea
การใช้อักษรโรมันตัวพิมพ์ใหญ่
อักษรตัวแรกของวิสามานยนาม และคำนำหน้านามที่อยู่หน้าคำวิสามานยนามนั้นๆ
ให้ใช้อักษรโรมันตัวใหญ่ เช่น นายปรีดา อยู่เย็น คือ Nai Prida Yuyen อักษรตัวแรกของคำแรกแต่ละย่อหน้าให้ใช้อักษรโรมันตัวใหญ่
และการถอดชื่อภูมิศาสตร์
ให้ถอดคำสามานยนามที่เป็นชื่อภูมิศาสตร์เป็ฯอักษรโรมันโดยไม่ต้องแปลเป็นภาษาอังกฤษ
เช่น เขาสอยดาว Khao Soi Dao โดยจะไม่ใช้ Soi
Dao Hill และสำหรับการถอดคำทับศัพท์คำทับศัพท์ที่เป็นวิสามานยนาม
ให้เขียนตามภาษาเดิม ซึ่งคำทับศัพท์ที่เป็นส่วนหนึ่งขอวิสามานยนามและไม่ประสงค์จะแปลชื่อวิสามานยนามนั้น
ให้เขียนคำทับศัพท์นั้นเป็ฯอักษรโรมันตามการออกเสียงในภาษาไทย รวมถึงการถอดเครื่องหมายต่างๆ
การถอดคำย่อและการถอดตัวเลข
อย่างไรก็ตามในการถอดอักษรไทยเป็นอักษรโรมันแบบถ่ายเสียงต้องมีการศึกษาหลักเกณฑ์ที่ถูกต้องเพราะจะทำให้เราสามารถถอดคำทับศัพท์ต่างๆได้อย่างถูกต้อง
ซึ่งคำทับศัพท์ต่างๆอันได้แก่ ชื่อสถานที่ โรงเรียน ภูมิประเทศ
รวมถึงชื่อบุคคลต่างๆ ทั้งนี้เพื่อให้การศึกษาในครั้งนี้ได้เกิดประโยชน์สูงสุด
นักศึกษาจึงควรที่จะหาความรู้เพิ่มเติมอยู่บ่อยๆ และการเลือกใช้คำต่างๆให้ถูกต้อง
รวมถึงการฝึกถอดคำ โดยเริ่มจากสิ่งที่อยู่ใกล้ๆตัวเรา
นั่นคือการฝึกถอดชื่อตัวเองหรือชื่อเพื่อน ที่อยู่ หรือแม้แต่ภูมิลำเนาเดิมของตนเองและเพื่อนๆ
เพียงแค่นี้ เราก็สามารถที่จะนำบทเรียนนี้ไปประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น